แสงยามเช้าสาดส่องลงมาบนแผ่นดินสีดำ จ้าวไห่มองดูหัวไชเท้าที่พวกเขาเก็บเกี่ยวมากองเต็มอยู่บนรถลาก บรรดาทาสต่างช่วยกันขนของอย่างขะมักเขม้น
กรีนกำชับทาสให้ดูแลหัวไชเท้าอย่างระมัดระวัง เขาย้ำว่าหัวไชเท้าเหล่านี้คือความหวังของตระกูลบูดา หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นครอบครัวจะลำบากยิ่งกว่าเดิม
ขบวนรถลากมุ่งหน้าไปยังเมืองคาซ่า เส้นทางยาวไกลผ่านภูเขาและป่าไม้ จ้าวไห่มองเห็นผืนดินรกร้างสองข้างทาง เขาปณิธานว่า วันหนึ่งเขาจะฟื้นฟูผืนดินเหล่านี้ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง
ระหว่างทาง เม็กถามจ้าวไห่ว่าเหนื่อยไหม เขายิ้มตอบว่าเขาต้องอดทน เพราะต้องการพิสูจน์ให้กรีนและทุกคนเห็นว่าเขาไม่ใช่ขุนนางไร้ประโยชน์อีกต่อไป
เมื่อถึงเวลาแรมคืน พวกเขากางเต็นท์พักแรม จ้าวไห่นั่งมองกองไฟพลางครุ่นคิดถึงอนาคต เขายังคงกังวลเรื่องพิษในร่างกาย แต่ก็คิดว่าบางทีฟาร์มมิติอาจช่วยให้เขาหาทางรักษาพิษได้ในสักวันหนึ่ง
รุ่งเช้า พวกเขาเดินทางต่อไปจนใกล้ถึงเมือง กรีนบอกให้จ้าวไห่ซ่อนตัวอยู่ในรถ เพื่อไม่ให้ผู้คนเห็น จ้าวไห่ได้แต่นั่งฟังเสียงรอบข้างและได้กลิ่นอาหารจากตลาดในเมือง เขานึกถึงชีวิตธรรมดาที่อยากมี
เมื่อขบวนมาถึงประตูเมือง จ้าวไห่มองลอดม่านออกไป เห็นกำแพงสูงและพ่อค้าแม่ค้าขวักไขว่ เขารู้สึกตื่นเต้นและตั้งใจว่า สักวันหนึ่งเขาจะสามารถยืนหยัดที่นี่อย่างภาคภูมิในฐานะผู้สืบทอดตระกูล
Leave a Reply